วันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียนครั้งที่9

บันทึกการเรียนครั้งที่9
วันพุธที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2560

เด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
  (Children with Behavioral and Emotional Disorders)
•  มีความรู้สึกนึกคิดที่ผิดไปจากปกติ
•  แสดงออกถึงความต้องการทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น
•  มีความเชื่อมั่นในตนเองต่ำ
•  เด็กที่มีการควบคุมอารมณ์ให้อยู่ในสภาพปกตินาน ๆ ไม่ได้
•  เด็กที่ควบคุมพฤติกรรมบางอย่างของตนเองไม่ได้
•  ทำให้ไม่สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเรียบร้อย

ลักษณะของเด็กบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
•  ความวิตกกังวล (Anxiety) ซึ่งทำให้เด็กมีนิสัยขี้กลัว
•  ภาวะซึมเศร้า (Depression) มีความเศร้าในระดับที่สูงเกินไป
•  ปัญหาทางสุขภาพ และขาดแรงกระตุ้นหรือความหวังในชีวิต

การจำแนกเด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ตามกลุ่มอาการ
ด้านความประพฤติ (Conduct Disorders)
    • ทำร้ายผู้อื่น ทำลายสิ่งของ ลักทรัพย์
    • ฉุนเฉียวง่าย หุนหันพลันแล่น และเกรี้ยวกราด
    • กลับกลอก เชื่อถือไม่ได้ ชอบโกหก ชอบโทษผู้อื่น
    • เอะอะและหยาบคาย
    • หนีเรียน รวมถึงหนีออกจากบ้าน
    • ใช้สารเสพติด
    • หมกมุ่นในกิจกรรมทางเพศ


ด้านความตั้งใจและสมาธิ (Attention and Concentration)
    • จดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งในระยะสั้น (Short attention span) อาจไม่เกิน 20 วินาที
    • ถูกสิ่งต่างๆ รอบตัวดึงความสนใจได้ตลอดเวลา
    • งัวเงีย ไม่แสดงความสนใจใดๆ รวมถึงมีท่าทางเหมือนไม่ฟังสิ่งที่ผู้อื่นพูด

สมาธิสั้น (Attention Deficit)
    • มีลักษณะกระวนกระวาย ไม่สามารถนั่งนิ่งๆ ได้ หยุกหยิกไปมา
    • พูดคุยตลอดเวลา มักรบกวนหรือเรียกร้องความสนใจจากผู้อื่น
    • มีทักษะการจัดการในระดับต่ำ

การถอนตัวหรือล้มเลิก (Withdrawal)
    • หลีกเลี่ยงการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น และมักรู้สึกว่าตนเองด้อยกว่าผู้อื่น
    • เฉื่อยชา และมีลักษณะคล้ายเหนื่อยตลอดเวลา
    • ขาดความมั่นใจ ขี้อาย ขี้กลัว ไม่ค่อยแสดงความรู้สึก

ความผิดปกติในการทำงานของร่างกาย(Function Disorder)
    • ความผิดปกติเกี่ยวกับพฤติกรรมการกิน (Eating Disorder)
    • การอาเจียนโดยสมัครใจ (Voluntary Regurgitation)
    • การปฏิเสธที่จะรับประทาน
    • รับประทานสิ่งที่รับประทานไม่ได้
    • โรคอ้วน (Obesity)
    • ความผิดปกติของการขับถ่ายทั้งอุจจาระและปัสสาวะ (Elimination Disorder)

ภาวะความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ระดับรุนแรง
    • ขาดเหตุผลในการคิด
    • อาการหลงผิด (Delusion)
    • อาการประสาทหลอน (Hallucination)
    • พฤติกรรมการทำร้ายตัวเอง
สาเหตุ
    • ปัจจัยทางชีวภาพ (Biology)
    • ปัจจัยทางจิตสังคม (Psychosocial)
ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเด็ก
    • ไม่สามารถเรียนหนังสือได้เช่นเด็กปกติ
    • รักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนหรือกับครูไม่ได้
    • มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เมื่อเทียบกับเด็กในวัยเดียวกัน
    • มีความคับข้องใจ มีความเก็บกดอารมณ์
    • แสดงอาการทางร่างกาย เช่น ปวดศีรษะ ปวดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
    • มีความหวาดกลัว

เด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรม ซึ่งจัดว่ามีความรุนแรงมาก
    • เด็กสมาธิสั้น (Children with Attention Deficit and Hyperactivity Disorders)
    • เด็กออทิสติก (Autistic) หรือ ออทิสซึ่ม (Autisum)

เด็กสมาธิสั้น (Children with Attention Deficit Hyperactivity Disorders)
ADHD เป็นภาวะผิดปกติทางจิตเวชมีลักษณะเด่นอยู่ 3 ประการ คือ
   • Inattentiveness
   • Hyperactivity
   • Impulsiveness 

Inattentiveness (สมาธิสั้น)
   • ทำอะไรได้ไม่นาน วอกแวก ไม่มีสมาธิ
   • ไม่สามารถจดจ่อกับงานที่กำลังทำได้นานเพียงพอ
   • มักใจลอยหรือเหม่อลอยง่าย
   • เด็กเล็กๆจะเล่นอะไรได้ไม่นาน เปลี่ยนของเล่นไปเรื่อยๆ
   • เด็กโตมักทำงานไม่เสร็จตามที่สั่ง ทำงานตกหล่น ไม่ครบ ไม่ละเอียด

Hyperactivity (ซนอยู่ไม่นิ่ง)
   • ซุกซนไม่ยอมอยู่นิ่ง ซนมาก
   • เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
   • เหลียวซ้ายแลขวา
   • ยุกยิก แกะโน่นเกานี่
   • อยู่ไม่สุข ปีนป่าย
   • นั่งไม่ติดที่
   • ชอบคุยส่งเสียงดังรบกวนคนรอบข้าง

Impulsiveness (หุนหันพลันแล่น)
   • ยับยั้งตัวเองไม่ค่อยได้ มักทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด วู่วาม
   • ขาดความยับยั้งชั่งใจ
   • ไม่อดทนต่อการรอคอย หรือกฎระเบียบ
   • ไม่อยู่ในกติกา
   • ทำอะไรค่อนข้างรุนแรง
   • พูดโพล่ง ทะลุกลางปล้อง
   • ไม่รอคอยให้คนอื่นพูดจบก่อน ชอบมาสอดแทรกเวลาคนอื่นคุยกัน
สาเหตุ
   • ความผิดปกติของสารเคมีบางชนิดในสมอง
เช่น โดปามีน (dopamine) นอร์อิพิเนฟริน (norepinephrine)
  • ความผิดปกติในการทำงานของวงจรที่ควบคุมสมาธิ และการตื่นตัว อยู่ที่สมองส่วนหน้า (frontalcortex)
  • พันธุกรรม
  • สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสมาธิสั้น
  • สมาธิสั้น ไม่ได้เกิดจากความผิดของพ่อแม่ที่เลี้ยงดูลูกผิดวิธี ตามใจมากเกินไป หรือปล่อยปละละเลย
จนเกินไป และไม่ใช่ความผิดของเด็กที่ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ แต่ปัญหาอยู่ที่การทำงานของสมองที่ควบคุม
เรื่องสมาธิของเด็ก
อยู่ไม่สุข (Hyperactivity )
ต่างกัน
สมาธิสั้น (Attention Deficit )

ลักษณะของเด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
    • อุจจาระ ปัสสาวะรดเสื้อผ้า หรือที่นอน
    • ยังติดขวดนม หรือตุ๊กตา และของใช้ในวัยทารก
    • ดูดนิ้ว กัดเล็บ
    • หงอยเหงาเศร้าซึม การหนีสังคม
    • เรียกร้องความสนใจ
    • อารมณ์หวั่นไหวง่ายต่อสิ่งเร้า
    • ขี้อิจฉาริษยา ก้าวร้าว
    • ฝันกลางวัน
    • พูดเพ้อเจ้อ

เด็กพิการซ้อน (Children with Multiple Handicaps) 

• เด็กที่มีความบกพร่องที่มากกว่าหนึ่งอย่าง เป็นเหตุให้เกิดปัญหาขัดข้องในการเรียนรู้อย่างมาก
• เด็กปัญญาอ่อนที่สูญเสียการได้ยิน
• เด็กปัญญาอ่อนที่ตาบอด
• เด็กที่หูหนวกและตาบอด


  ความรู้ที่ได้รับ : การทราบถึงความหมาย อาการและเทคนิคการจัดการเรียนการสอนแก่ที่มีความต้องการ
พิเศษ
  การนำไปใช้ :นำความรู้ที่ได้เรียนไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนกับเด็กพิเศษ เราจะต้องจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับอาการของเด็กเเต่ละคน สอนให้เด็กเข้าใจและสอนให้เด็กสามารถช่วยเหลือตนเองในชีวิตประจำวันได้  เมื่อเด็กมีอาการกำเริบเราสามารถนำความรู้ที่มีมาปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้
เทคนิคการสอน
- เทคการใช้สื่อในการสอน
- เทคนิคการอธิบาย
- เทคนิคการใช้ตัวอย่าง

ประเมินตนเอง : ตั้งใจเรียนในขณะที่อาจารย์สอนและตอบคำถามทุกครั้ง
ประเมินเพื่อน : เพื่อน ๆ ตั้งใจเรียนและไม่คุยกันในเวลาเรียน
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์เตรียมการสอนมาดีมาก การเรียนเป็นไปอย่างเป็นลำดับขั้นตอน มีเทคนิคการสอนที่น่าสนใจ สามารถอธิบายและยกตัวอย่างให้นักศึกษาได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น